แนะนำเกม Warzone 2.0 อาจเป็นอาวุธที่ไม่มีใคร ๆ ต่างรู้จัก แต่เมื่อลองจับใช้งานครั้งแรก อาจจะกลายเป็นอาวุธโปรดตัวใหม่
แนะนำเกม Warzone 2.0 ของดีที่บางคนอาจมองข้ามใน Modern Warfare II และ Warzone 2.0 แล้วจะมีอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปอ่านได้เลย
Basilisk (ปืนลูกโม่)
ปืนลูกโม่ประจำเกม Modern Warfare II ที่มีพลังทำลายล้าง และความแม่นยำสูง แต่ด้วยความเร็วรีโหลดช้า มีจำนวนกระสุนแค่ 5 นัด และไกปืนตอบสนองช้า ทำให้หลายคนนิยมใช้ปืน .50 GS (Desert Eagle) ที่พลังทำลายล้างพอ ๆ กับ Basilisk และโดยรวมแล้ว มันเป็นปืนพกแม็กนั่มที่ใช้งานง่ายกว่า Basilisk อย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุที่ Basilisk เป็นปืนที่แนะนำให้ใช้งาน เพราะมีตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย เช่น อยากเปลี่ยนจากปืนลูกโม่ กลายเป็นปืนลูกซองถือมือเดียว ? ก็สามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนกระสุนเป็น Snake Shot, อยากเพิ่มศักยภาพให้เหมือนเป็นปืนยิงช้าง ก็ทำได้ด้วยการเปลี่ยนปากกระบอกปืนให้มีขนาดยาวกว่าเดิม และแน่นอน เกมเมอร์สามารถเปลี่ยนไกปืน เพื่อเพิ่มการตอบสนองของไกปืน ซึ่งเป็นการลบข้อเสียดั้งเดิมของปืน Basilisk
Basilisk อาจจะเป็นปืนที่ใช้งานยากในช่วงแรก แต่ถ้าหากปลดล็อกอุปกรณ์ ของตกแต่งต่าง ๆ แล้วนำมาใช้งาน เรามั่นใจว่าเกมเมอร์จะรู้สึกว่า Basilisk มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
STB-556 (ปืนไรเฟิลจู่โจม)
STB-556 หรือ AUG ปืนไรเฟิลจู่โจมแบบ Bullpup ที่ใช้งานง่าย เป็นมิตรสำหรับมือใหม่ เพราะเป็นปืนที่มีแรงดีดต่ำ น้ำหนักค่อนข้างเบา ส่งผลทำให้วิ่งกับเล็ง ADS ได้รวดเร็วระหว่างถือปืน นอกจากนี้ STB-556 มีตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย ที่ช่วยเสริมพลังให้ปืนน้ำหนักเบากว่าเดิมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม STB-556 มีข้อเสียตรงพลังทำลายล้างน้อยกว่าปืนไรเฟิลจู่โจมทั่วไป รวมถึงมีอัตราความเร็วในการยิงต่ำ ส่งผลทำให้ปืนนี้ไม่สามารถต่อกรกับ M4, Kastov, TAQ และปืนอีกหลายกระบอก แต่ถ้าหากมองข้ามข้อเสียนี้ไปได้ STB-556 ก็ถือว่าเป็นอีกปืนกระบอกหนึ่งที่เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์
MX9 (ปืนกลเบา)
คล้ายกับ STB-556 นี่คือ AUG ฉบับปืนกลมือใช้กระสุน 9 มม. ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะเป็นปืนที่มีแรงดีดควบคุมง่าย และมีตัวเลือกการปรับแต่งหลากหลายที่ช่วยให้ปืนมีน้ำหนักเบา และเพิ่มความคล่องแคล่วมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
แต่ข้อเสียก็คล้ายกับ STB-556 ที่ MX9 มีพลังทำลายล้างต่ำ ซ้ำร้ายกระสุนปืนนี้บรรจุเพียงแค่ 25 นัดเท่านั้น ทำให้ MX9 พ่ายแพ้ให้กับปืนกลมือกระบอกอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพโดดเด่นกว่า แต่โดยรวมแล้ว ปืนกระบอกนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ และใช้งานสนุกสนานพอสมควร
RAPP H (ปืนกลหนัก)
RAPP H ถือว่าเป็นปืนกลเบา (LMG) ที่ควรได้รับการกล่าวถึงมากกว่านี้ เพราะหากพูดถึง LMG ที่ดีที่สุด แฟน ๆ จะนึกถึง RPK เป็นอย่างแรก เพราะเป็นปืนที่ผสมผสานระหว่าง LMG และปืนไรเฟิลจู่โจมได้ลงตัว, สามารถเปลี่ยนกล่องบรรจุกระสุนเป็นแม็กกาซีน 40 หรือ 30 นัด ซึ่งรีโหลดเร็วพอ ๆ กับปืนตระกูล Kastov พร้อมมีพลังทำลายล้างค่อนข้างสูง กับแรงดีดของปืนสามารถควบคุมได้ เนื่องจากมีอัตราความเร็วในการยิงค่อนข้างต่ำ หรืออธิบายแบบง่าย ๆ ที่สุด มันคือปืน Kastov ในรูปแบบ LMG นั่นเอง
ตรงกันข้ามกับ RPK ปืน RAPP H แม้รีโหลดกระสุนช้า มีน้ำหนักเยอะเป็นรองจาก RAAL MG แต่ปืนนี้มีข้อดีที่อัตราความเร็วในการยิงสูงมาก มีความแม่นยำกำลังดี และที่น่าตกใจที่สุด คือปืนนี้มีแรงดีดน้อย สามารถควบคุมปืนได้ง่ายเกินคาด (ยังไม่ถึงขั้นเรียกว่าปืนเลเซอร์ แต่ก็เกือบแล้ว) ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปืนนี้จึงเหมาะสำหรับการเล่นโหมด Hardpoint หรือคนที่มีสไตล์การเล่นแบบใจเย็น เช่น ชอบเล็ง ADS ค้างไว้ เพราะ RAPP H คือปืนที่เหมาะสำหรับการยิงกดดัน, ป้องกัน Objective และสังหารศัตรูจากระยะกลาง-ไกลอย่างแท้จริง
FTAC Recon (ปืน Battle Rifle)
ปืน M4 เวอร์ชันใช้กระสุน .458 ซึ่งมีพลังทำลายล้างเหมาะสม น้ำหนักสมเหตุสมผล แรงดีดกำลังดี และมีความแม่นยำในระดับหนึ่ง จึงไม่ปฏิเสธว่า FTAC Recon เป็นปืน Battle Rifle ที่เหมาะสำหรับการต่อสู้ในระยะกลาง และใช้งานง่าย หากเทียบกับปืน Battle Rifle กระบอกอื่น
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก FTAC Recon มีข้อเสียร้ายแรง คือปืนนี้บรรจุกระสุนเพียง 10 นัด ซึ่งต่ำกว่าปืน Battle Rifle มาตรฐานที่ส่วนใหญ่บรรจุกระสุน 20 นัด นอกจากนี้ การเปลี่ยนแม็กกาซีนเป็นกระสุน 15 นัด ส่งผลเสียทำให้การรีโหลด และยกเล็ง ADS ช้าลงตามมา ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก
ฉะนั้นเราแนะนำว่าถ้าหากใช้ปืน FTAC Recon ควรเล่นด้วยโหมดการยิงแบบ Single Fire แม้การยิงโหมด Auto Fire จะยังใช้งานได้ดี แต่คิดว่าการสาดกระสุน Battle Rifle ที่บรรจุกระสุนเพียง 10 หรือ 15 นัด ไม่เหมาะสำหรับสไตล์การเล่นแบบบู๊ล้างผลาญเท่าไหร่นัก (มีทฤษฎีว่ากันว่าหากเปิดโหมด Auto Fire พลังทำลายล้างของปืน Battle Rifle จะลดลงด้วย)
Combat Knife (มีดต่อสู้)
คำกล่าวที่ว่า “อย่าเอามีดมาต่อสู้กับคนที่มีปืน” มันใช้ไม่ได้กับเกม Modern Warfare II เพราะอย่างที่แฟน ๆ ทราบกันดี มีดต่อสู้ของเกมนี้สามารถสังหารศัตรูได้จากการฟันเพียงครั้งเดียว แล้วด้วยเหตุผลดังกล่าว เกมเมอร์บางคนจึง Build คลาสสายมีด ด้วยการใช้ Riot Shield เป็นอาวุธหลัก แล้วสวมมีดเป็นอาวุธรอง แล้วทำการวิ่งทั่วแผนที่ สังหารศัตรูแบบไม่ทันตั้งตัว
การใช้อาวุธ Combat Knife ถือเป็นการเล่นแบบเสี่ยงตาย แต่มีความคุ้มค่า (High Risk, High Reward) ถ้าหากเล่นแบบระมัดระวัง ไม่บุกมั่วซั่ว ฆ่าศัตรูในจังหวะที่เหมาะสม และไม่เจอข้าศึกที่ใช้อาวุธลูกซอง มันถือว่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ และใช้งานได้สนุกมาก ๆ เลยทีเดียว (ยกเว้นโหมด Warzone 2.0 ที่ไม่เหมาะกับการใช้มีด เนื่องจากแผนที่มีขนาดใหญ่เกินไป)
เว็บไซต์รวบรวม เกมสร้างรายได้ ข่าวเกม อัพเดทเกมใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เกมไทย เกมต่างประเทศ เกมออนไลน์ 2021 เกมบาคาร่า เกมไพ่ป๊อกเด้ง เกมสล็อต ที่กำลังเป็นที่นิยม
แนะนำเกมใหม่ 2021 มีการอัพเดททุกวัน เกมสร้างรายได้ อันดับ 1 หลากหลายค่าย คาสิโนสด สล็อตออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์
ติดตามข่าววงการเกมไปกับ Game88s
อยากอัพเดทข่าวสารวงการเกมก่อนใคร แอดมาที่นี่ Line : @GAME88S