แนะนำเกม MX vs ATV Legends เกมแข่งรถวิบากดินทรายที่มีจุดเด่นเป็นสนามแข่ง
แนะนำเกม MX vs ATV Legends เป็นแฟรนไชส์เกมแข่งรถวิบากที่หลายคนอาจไม่รู้จักมาก่อน เนื่องจากได้รับความนิยมในเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เกมตระกูลดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีกระแสปังกว่าที่คิดไว้ เพราะเกมนี้มีการพัฒนาต่อเนื่องมาถึง 7 ภาค และไม่มีท่าทีว่าฐานแฟนของเกมนี้จะลดลงอีกด้วย
MX vs ATV Legends คือเกมภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ ที่มาพร้อมการอัปเกรดกราฟิกจากเกมภาคก่อน และการแข่งขัน มอเตอร์ไซค์วิบาก, ATV และ UTV ที่น่าตื่นเต้นเหมือนเดิม แล้วเกมนี้จะเป็นอย่างไร ก็เข้าไปอ่านบทความรีวิวของเราได้เลย
เนื่องจากเกมนี้ไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง จึงข้ามการรีวิวในส่วนของ Story เหลือแต่รีวิวในส่วนของการนำเสนอ, เกมเพลย์ กับ กราฟิก/ประสิทธิภาพ
การนำเสนอ
เนื้อหา Singleplayer ของ MX vs ATV Legends มาในรูปแบบ Career Mode ที่ผู้เล่นต้องชนะการแข่งขันหลายรายการ เพื่อคว้าตำแหน่งเป็นตำนานนักแข่งมอเตอร์ไซค์วิบาก, ATV และ UTV ให้ได้
การดำเนินความคืบหน้าของโหมด Career มีเป็นเส้นตรง คือ เริ่มแรกต้องเข้าการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากระดับ Amateur แล้วได้อันดับถ้วยทองแดงขึ้น เพื่อปลดล็อกรายการแข่งขันถัดไปที่ยากท้าทายมากขึ้น
ในเกมนี้ มีการแข่งขันตั้งแต่รายการมอเตอร์ไซค์วิบาก, ATV กับ UTV ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกเล่นรายการแข่งขันไหนก็ได้ เช่น หากเบื่อการขับรถมอเตอร์ไซค์วิบากแล้ว ก็ข้ามมาเข้าแข่งขับแข่งรถ ATV กับ UTV ได้ ซึ่งทั้งสองยานพาหนะ มีเส้นทางความคืบหน้าของโหมด Career ที่แยกออกจากมอเตอร์ไซค์วิบาก
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโหมด Career มีระบบความคืบหน้าเป็นเส้นตรงจัด ๆ ทุกอีเวนต์จะมีแต่การแข่งขันเพียงอย่างเดียว ไม่มีระบบการจัดการบริหารทีม ก็ทำให้โหมด Career ของเกมนี้ขาดความน่าสนใจ และไม่ค่อยน่าดึงดูดอยากเล่นต่อเท่าไหร่นัก
แม้ก่อนเข้าร่วมรายการแข่งขัน เกมเมอร์จะสามารถเดินทางอย่างอิสระในแผนที่ Open-World ที่ฟาร์มของเราได้ แต่น่าเสียดายที่แผนที่ Open-World ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ นอกเหนือจากเก็บไอคอน Collection ที่จัดกระจายทั่วแผนที่ หรือหมายความว่าถ้าหากเก็บไอคอน Collection ครบแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องขับรถ Free Roam อีกต่อไป
ส่วนระบบการ Customize ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี และเข้าใจง่าย โดยผู้เล่นสามารถนำเงินจากการแข่งขันมาซื้อยานพาหนะคันใหม่ อัปเกรด ปรับรูปลักษณ์ของยานพาหนะ และชุดของตัวละครได้ ซึ่งตัวเลือกการปรับแต่งอยู่ในปริมาณที่พอดิบพอดี ไม่เยอะหรือน้อยจนเกินไป
แม้ไม่มีระบบการจูนรถแบบ Slider เหมือนเกมอื่น แต่เนื่องจากเกมนี้เป็นเกม Racing สไตล์ Arcade เน้นเล่นง่าย จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่ทีมงานจะไม่ใส่ระบบนี้เข้ามา เพราะมันทำให้ระบบเกมมันซับซ้อนจนเกินไป ก็หมายความว่าถ้าอยากดาวน์เกรด หรืออัปเกรดรถ ผู้เล่นสามารถทำได้จากการใส่หรือถอดพาร์ทเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เกมเพลย์
เหมือนที่กล่าวไว้ด้านบน MX vs ATV Legends เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาร์เคด เน้นเล่นง่าย เน้นความสนุก ไม่ได้สมจริงมากนัก ทุกคนจับจอยคอนโทรลเลอร์แล้วเล่นได้ทันที ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่างที่นั่งกับพวงมาลัย
สิ่งที่ MX vs ATV Legends ทำออกมาได้ดีมาก คือ การดีไซน์สนามแข่งที่มีเส้นทางกับภูมิประเทศไม่แน่นอน ในหนึ่งสนามแข่งจะมีเส้นทางแคบที่หากหลุดออกจากโค้ง ก็มีสิทธิ์ขับรถออกจากสนามได้, มีถนนกว้างขนาดใหญ่ เปิดให้การจราจรในสนามแข่งมีการระบาย และบางสนาม อาจเป็นการแข่งกันในถ้ำอุโมงค์ ซึ่งมีภูมิประเทศซับซ้อน ทำให้ตลอดการแข่งขันมีความน่าตื่นเต้น มีความน่าสนใจ และการขับยานพาหนะมีความท้าทาย
นอกจากนี้ ในเกมมีสนามแข่งเป็นเส้นตรง คล้ายกับเกมคลาสสิกอย่าง Excite Bite ที่ผู้เล่นต้องคอยกดเร่งหรือลดความเร็ว กับกะระยะการกระโดดให้ดี เพื่อรักษาความเร็วของยานพาหนะไว้แล้วคว้าชัยอันดับ 1
อาจจะฟังดูง่าย เพราะเหมือนกับการแข่งแบบ Drag Racing ที่เน้นความเร็วของรถอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว โหมดดังกล่าวกลับมีความยากท้าทายกว่าที่คิดไว้มาก เพราะผู้เล่นต้องคอยกดเร่งหรือชะลอความเร็ว และบังคับน้ำหนักของมอเตอร์ไซค์หรือ ATV ระหว่างเหินเวหาให้ลงพื้นถนนอย่างราบรื่นที่สุด จากประสบการณ์ส่วนตัว ก็ยอมรับเลยว่าต้องฝึกฝนเล่นหลายรอบ จนกว่าจะคว้าอันดับ 1 ในรายการแข่งขันแบบเส้นตรงได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม MX vs ATV Legends มาพร้อมกับข้อเสียที่ได้ฉุดรั้งความสนุกสนานลง อย่างแรกเลย ระบบการขับ และฟิสิกส์ของรถ UTV ที่ออกแบบมามีลักษณะประหลาด (ในทางที่ไม่ดี) มันมีความรู้สึกเหมือนตัวรถขาดน้ำหนัก และเลี้ยวแล้วเหมือนกำลังขับรถบนถนนที่ลาดด้วยน้ำยาล้างจาน แม้ส่วนตัวจะขับจนปรับตัวเข้ากับเกมได้แล้ว แต่การขับ UTB มันไม่ค่อยสนุกเทียบเท่ากับการขับมอเตอร์ไซค์วิบาก กับ ATV อยู่ดี
นอกจากนี้ การแข่งขันทางเส้นตรงก็ไม่เข้ากับรถ UTV อย่างมาก เพราะรถดังกล่าว ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักระหว่างเหินเวหาได้ รวมถึงสนามแข่งก็มีเส้นทางแคบเกินไป จนทำให้มีการชนกันจนหลุดออกจากสนาม และรถคว่ำหลายครั้ง ซึ่งมันเป็นประสบการณ์การเล่นที่ชวนหงุดหงิดที่สุดแล้วจากการเล่นเกมนี้
สุดท้าย แม้สนามแข่งมีความท้าทาย แต่ A.I. กลับไม่ฉลาดสักเท่าไหร่นัก มีหลายครั้งที่พวกมันจะมีพฤติกรรม “ดับเครื่องชน” ชอบเร่งความเร็วแบบเต็มพิกัด ขับหลุดออกนอกสนาม หรือชนคู่แข่งด้วยกันเอง ซึ่งปัญหานี้จะพบเห็นได้ชัดเจนในการแข่งขันแบบ Trail (การแข่งขันจากจุด A ไปจุด B) ที่ส่วนตัวสามารถคว้าอันดับ 1 ได้อย่างง่ายดาย เพราะ A.I. ชนแหลกจนออกนอกสนามหลายครั้ง และแม้จะปรับระดับความยากสูงสุดแล้ว ก็ไม่ช่วยให้พวกมันฉลาดขึ้นแต่อย่างใด
กราฟิก / ประสิทธิภาพ
MX vs ATV Legends พัฒนาโดยใช้ Unreal Engine ซึ่งเป็นเอนจินเกมมหาชน ที่ทีมพัฒนาเกมจากบุคคลที่สามหลายแห่งนิยมใช้กัน
ถ้าผู้เล่นสัมผัสเกมที่ใช้ Unreal Engine มาแล้ว ก็คาดหวังได้เลยว่า MX vs ATV Legends มีภาพกราฟิกแสงสีเป็นธรรมชาติ ดูงดงามสมจริง และฉากสนามแข่งหลายจุด เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก จนน่าเสียดายที่ว่าเกมดังกล่าวไม่มีโหมด Photo สำหรับถ่าย Screenshot
ส่วนด้านประสิทธิภาพ (Performance) ค้นพบว่าเกมดังกล่าว มีอาการเฟรมเรตกระตุกเป็นบางช่วงโดยไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด แต่โดยรวมแล้ว ตัวเกมสามารถเล่นได้ในระดับเฟรมเรต 60FPS, ความละเอียดหน้าจอ 1080p และกราฟิกระดับ Epic ด้วย PC ที่ใช้สเปก CPU Intel Core i5-9600K 3.70 GHz กับการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Super
ถึงอย่างนั้น เราพบว่าเกมมีบั๊กภาพกราฟิกระดับ Low ที่ทำให้แสงเงาในเกมมีลักษณะมืดสนิท ซึ่งทำให้การเล่นเกมยากลำบากเป็นบางครั้ง รวมถึงมีบั๊กประปรายที่อาจสร้างความรำคาญต่อบางคน เช่น บั๊กชนกำแพงแล้วรถทะลุวัตถุ จนไม่สามารถวิ่งถอยหลังได้ ต้อง Reset รถใหม่สถานเดียว หรือเจอบั๊กชนวัตถุล่องหนบางอย่าง ซึ่งทำให้ความเร็วของยานพาหนะหยุดชะงัก แต่อย่างไรก็ตาม บั๊กที่กล่าวมานั้นมีโอกาสพบเจอค่อนข้างยาก เพราะจากการเล่นติดต่อกัน 10 ชั่วโมง เรานับได้ว่าบั๊กชนวัตถุล่องหนเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และในสนามแข่งเดียวเท่านั้น
แน่นอน ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวสามารถแก้ไขได้ในเนื้อหา Patch เวอร์ชันใหม่ และสภาพเกมตอนนี้ยังถือว่าเล่นได้ปกติ ไม่มีปัญหาเกม Crash หรือค้างเองจากการเล่นนานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมงติด
สรุป
MX vs ATV Legends พิสูจน์ให้เห็นว่าการออกแบบสนามแข่งที่ดี เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญ ที่ทำให้การเล่นเกมแข่งรถมีความน่าตื่นเต้นขึ้น ซึ่งน่าเสียดายที่ระบบดังกล่าวดันเป็นเดอะแบกที่ช่วยกลบข้อเสีย และจุดน่ารำคาญต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น เกมนี้ก็ยังคงมอบความสนุกสนาน ที่ใช้เป็นเกมเล่นฆ่าเวลาได้ดีเลยทีเดียว
ข้อดี
- สนามแข่งส่วนใหญ่มีการออกแบบน่าสนใจ
- มอเตอร์ไซค์ กับ ATV ขับสนุก
- กราฟิกสวย
ข้อเสีย
- โหมด Career และแผนที่ Open-World ขาดความน่าสนใจ
- UTV ขับไม่ค่อยสนุก และไม่เข้ากับการแข่งขันแบบเส้นตรง
- A.I. ไม่ฉลาด
- มีปัญหาบั๊กกราฟิกระดับ Low ใน PC ทำให้การเล่นลำบาก
ติดตามข่าววงการเกมไปกับ Game88s : คลิก
อยากอัพเดทข่าวสารวงการเกมก่อนใคร แอดมาที่นี่ Line : @GAME88S